CASIO G-SHOCK นาฬิกาข้อมือ นาฬิกากันน้ำ นาฬิกาของแท้ ประกันศูนย์ CMG 1 ปี รุ่น MRG-B2000SH-5A นาฬิกาสีน้ำตาล

คุณสมบัติ

—SHOUGEKI-MARU—

นาฬิกาชิ้นเอกสุดหรูหราที่ผสมผสานงานผลงานระดับปรมาจารย์

จากลวดลายบน Shougeki-Maru ซึ่งเป็นหมวกเหล็กในสมัยโบราณ สู่การสร้างสรรค์สุดพิเศษของนาฬิกา MR-G เพื่อถ่ายทอดความสง่างามและสุนทรียศาสตร์ของแม่ทัพ

ถ่ายทอดมุมมองที่ไม่เหมือนใครลงในหมวดผลิตภัณฑ์ G-SHOCK

รับรองโดยหมายเลขรหัสสินค้ากว่า 400 รหัสทั่วโลก

ความประณีตในอีกระดับ ภาพลักษณ์ทรงพลังและสุนทรียศาสตร์แห่งความสง่างามหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับงานฝีมือชาวญี่ปุ่นโบราณ

ดีไซน์หมวก MR-G KABUTO แบบดั้งเดิม

SHOUGEKI-MARU

สร้างสรรค์ผลงานโดย:

Yuzan Suzukine ช่างทำหมวก/เกราะเหล็ก (ตัวเรือนหลัก)

และผู้สืบทอดงานฝีมือ Masao Kobayashi (ยอดหมวกมาเอะดาเตะ)

กรอบแกะสลัก: มังกรผงาด จิตวิญญาณที่ไม่เคยหลับใหล

ดีไซน์ของกรอบสร้างสรรค์จากรูปลักษณ์ของยอดหมวก Shougeki-Maru Masao Kobayashi เป็นช่างทำโลหะที่ร่วมสร้างหมวกนักรบ ได้บรรจงแกะสลักกรอบแต่ละชิ้นด้วยลวดลายมังกรแสนองอาจ ทำให้กรอบแต่ละชิ้นมีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร

Masao Kobayashi

Masao Kobayashi เป็นช่างฝีมือรุ่นที่ 3 ในเมืองโอสึ จังหวัดชิงะ เขาฝึกฝนวิชาแกะสลักทองคำจากเมืองเกียวโตและทำงานเป็นช่างทองมาก่อน นอกจากจะเป็นผู้สร้างชิ้นส่วนโลหะประดับศาลเจ้าและวัดต่างๆ รวมถึงร่วมบูรณะสมบัติทางวัฒนธรรมแล้ว Kobayashi ยังประดิษฐ์ชิ้นส่วนโลหะสำหรับช้อนชงชา งานศิลปะและงานประดิษฐ์ รวมถึงสิ่งของอื่นๆ อีกมากมาย ถือได้ว่าเป็นช่างฝีมือด้านโลหะแนวหน้าของญี่ปุ่นคนหนึ่งเลยทีเดียว

กรอบและสายที่หลอมจากโลหะ: ความแข็งแกร่ง ชุดเกราะนักรบ *

กรอบและสายมีผิวสัมผัสแบบเดียวกับหมวก Shougeki-Maru ช่างฝีมือ Masanao Kikuchi ใช้เทคนิคการหลอมโลหะโดยการหล่อฉีดผ่านทรายเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกของสนิมโลหะ เทคนิคนี้ต้องใช้ทักษะขั้นสูงเพื่อสร้างลวดลายลงบนแม่พิมพ์ทรายด้วยแปรงหรือควัน จากนั้นสร้างผิวสัมผัสที่แปลกใหม่ลงบนผิวโลหะ

* การนำไทเทเนียมไปผ่านกระบวนการชุบแข็งขั้นสูง แล้วสร้างชั้นพื้นผิวด้วยการชุบเคลือบไอออน (IP) สีน้ำตาลและน้ำเงิน จากนั้นนำ IP สีน้ำเงินออกจากพื้นผิวส่วนนูน เพื่อให้นาฬิกามีรูปลักษณ์ที่แปลกตา ทำให้มีพื้นผิวโลหะที่เหมือนขึ้นสนิมและภาพมังกรผงาดที่โดดเด่นสะดุดตา

Masanao Kikuchi

Masanao Kikuchi เป็นทายาทรุ่นที่ 15 ของโรงหล่อเหล็ก Kikuchi Hojudo ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1604 โดยเป็นช่างโลหะประจำปราสาทยามากาตะ ตั้งแต่วัยเยาว์ Kikuchi ได้ฝึกฝนวิชากับลุงของเขาที่เป็นบุคคลสำคัญแห่งชาติ และพ่อของเขาซึ่งเป็นทายาทรุ่นที่ 14 ของตระกูล Kikuchi ผลงานของเขาผลักดันขีดจำกัดของการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ในขณะเดียวกันก็อนุรักษ์เทคนิคงานฝีมือแบบดั้งเดิมเอาไว้ ทำให้ได้รับการยอมรับอย่างสูงทั้งในญี่ปุ่นและนานาประเทศ